พิจารณาสมการเชิงอนุพันธ์สามัญอันดับหนึ่งในรูป
P(x,y)dx + Q(x,y)dy = 0
(1)
ถ้าสมการ
(1) ไม่เป็นสมการแม่นตรง อาจมีฟังก์ชัน F(x,y) ซึ่งเมื่อนำมาคูณตลอดสมการ (1)
แล้วทำให้ผลที่ได้เป็นสมการแม่นตรง เราเรียกฟังก์ชัน F(x,y) นี้ว่า ตัวประกอบการอินทิเกรต ของสมการ (1) ตัวอย่างเช่น สมการต่อไปนี้
ydx xdy =
0
(2)
2ydy + xdy =
0
(3)
3ydx + 2xdy =
0 (4)
ทุกสมการไม่เป็นสมการแม่นตรง
แต่เมื่อคูณตลอดในแต่ละสมการด้วยฟังก์ชันที่เหมาะสม
ทำให้เป็นสมการแม่นตรงได้ดังต่อไปนี้
เช่น * คูณตลอดสมการ (2) ด้วย y-2 ได้
ydx
xdy = 0
y2
จะได้ d
( x ) = 0
เป็นสมการแม่นตรง
( y )
* คูณตลอดสมการ (3) ด้วย x ได้
2xy
dx + x2 dy = 0
จะได้
d(x2y) =
0 เป็นสมการแม่นตรง
* คูณตลอดสมการ (4) ด้วย (xy)-1 ได้
จะได้ 3 dx + 2 dy =
0
x
y
หรือ d( 3ln |x| + 2ln |y| ) =
0 เป็นสมการแม่นตรง เป็นต้น
ดังนั้นฟังก์ชัน
y-2 , x และ (xy)-1 เป็นตัวประกอบอินทิเกรตตามนิยามข้างบนนี้
เมื่อคูณสมการ (1) ด้วย F(x,y) ได้
F(x,y) P(x,y) dx + F(x,y) Q(x,y) dy =
0
(5)
เป็นสมการแม่นตรง เป็นไปได้ว่าคำตอบของสมการ (5) ที่ได้อาจมีคำตอบที่นอกเหนือไปจากคำตอบของสมการ (1) กล่าวคือ อาจมีคำตอบที่เป็นคำตอบของสมการ (5) แต่ไม่เป็นคำตอบของสมการ (1) คำตอบดังกล่าวนี้ คือคำตอบของสมการ F(x,y) = 0 ดังนั้นเมื่อหาคำตอบเป็นคำตอบของสมการ ( 1) ด้วยหรือไม่จากสมการ (5) แล้วควรทดสอบด้วยว่าคำตอบของสมการ F(x,y) = 0
ตัวอย่างที่ 2.1จงหาคำตอบของสมการ y(x3 y) dx x(x3 + y) dy = 0 วิธีทำ จัดสมการใหม่ได้ เป็น
x3(y dx x dy) y(y dx + x dy) = 0 (1)
เพราะว่า d ( x ) = y dx x dy จึงคูณตลอดสมการ (1) ด้วย y-2 ได้
y y2
x3 (y dx x dy) _ (y dx + x dy) = 0
y2 y
หรือ x3 d ( x ) _ 1 d (xy) = 0 (2)
y y
สมการ (2) เป็นสมการแม่นตรงได้ ถ้าสมประสิทธิ์ของ d ( x / y) เป็นฟังก์ชันของ x / y และสัมประสิทธิ์ของ d (xy) เป็นฟังก์ชันของ xy ดังนั้นเราให้ตัวประกอบอินทิเกรตมีรูปเป็น xmyn คูณตลอดสมการ(2) ได้
xm+3 yn d ( x ) xm yn-1
d(xy) = 0 (3)
( y)
เลือกค่า m และ n โดยให้ m + 3 = - n , m = n 1
จะได้ m = - 2 , n = - 1 และได้ตัวประกอบอินทิเกรตคือ x-2 y-1 และ สมการ (3) จะมีรูปเป็น
x d ( x ) _ ( xy )-2 d (xy) = 0
y y
หรือ d [ 1 ( x )2 ] + ( xy )-1 = 0
[2 y ]
ซึ่งจะได้คำตอบทั่วไปเป็น
( x )2 +
( xy )-1 = C ANSWER
2 y
การหาตัวประกอบอินทิเกรต
เราจะพิจารณาหาตัวประกอบอินทิเกรตของสมการเชิงเส้นอนุพันธ์สามัญอันดับหนึ่ง ที่ไม่เป็นสมการแม่นตรงในรูป
P (x,y) dx + Q (x,y) dy = 0 (1)
สมมุติว่า F(x,y) เป็นตัวประกอบอินทิเกรตของสมการ (2) ดังนั้นสมการ FP dx + FQ dy = 0
เมื่อ F = F(x,y) , P = P(x,y) และ Q = Q(x,y) เป็นสมการแม่นตรงและได้
∂FP = ∂FQ
∂y ∂x
หรือ 1 [ Q∂F _ P∂F] = ∂P _ ∂Q (3)
∂x ∂y ∂y ∂x
จะเห็นว่า F(x,y) เป็นตัวประกอบอินทิเกรตของสมการ (2) ต่อเมื่อ
F(x,y) สอดคล้องสมการ (2) เท่านั้น
สมการ (2) เป็นสมการเชิงอนุพันธ์ย่อย และการหาคำตอบของสมการเชิงอนุพันธ์ย่อยยังไม่ได้ศึกษามาก่อน ดังนั้นเพื่อตัดปัญหานี้เราแยกพิจารณากรณีเฉพาะเมื่อ F เป็นฟังก์ชันของ x อย่างเดียว หรือเป็นฟังก์ชันของ y อย่างเดียว ดังต่อไปนี้
ถ้า F เป็นฟังก์ชันของ x อย่างเดียว จะได้ ∂F / ∂y = 0 และ
สมการ (3) จะมีรูปเป็น
1 dF = 1 [ ∂P _ ∂Q ] (4)
F dx Q ∂y ∂x
แสดงว่า ทางขวามือของสมการ (4) ต้องเป็นฟังก์ชันของ x อย่างเดียว
ให้ A(x) = 1 [ ∂P _ ∂Q ]
Q ∂y ∂x
และสมการ (4) เขียนได้เป็น
1 dF = A(x)
F dx
อินทิเกรตได้
F = e∫A(x) dx
เป็นตัวประกอบอินทิเกรต
ทำนองเดียวกัน ถ้า F เป็นฟังก์ชันของ y อย่างเดียว จะได้
1 [ ∂P _ ∂Q ] = B(y) เป็นฟังก์ชันของ y อย่างเดียว
Q ∂y ∂x
และได้ F = e-∫B(y) dy เป็นตัวประกอบการอินทิเกรต
จากที่ได้พิจารณาแล้ว เราสรุปได้ว่า
(ก) ถ้า 1 [ ∂P _ ∂Q ] เป็นฟังก์ชันของ x อย่างเดียวแล้วตัวประ
Q ∂y ∂x
กอบอินทิเกรตของสมการ (2) คือ
F = exp [ ∫1 ( ∂P _ ∂Q ) dx ]
Q ∂y ∂x
(ข) ถ้า 1 [ ∂P _ ∂Q ] เป็นฟังก์ชันของ y อย่างเดียวแล้วตัวประ
Q ∂y ∂x
กอบอินทิเกรตของสมการ (2) คือ
F = exp [ _ ∫ 1 ( ∂P _ ∂Q ) dy ]
P ∂y ∂x
ตัวอย่างที่ 2.2 พิจารณาสมการ
y ( x + y ) dx + ( x + 2y 1 ) dy = 0 (1)
P = y ( x + y ) , Q = x + 2y 1
และได้ ∂P = x + 2y + 1 , ∂Q = 2x + 3y + 2
∂y ∂x
แสดงว่า สมการไม่เป็นสมการแม่นตรง พิจารณาต่อไปคือ
1 [ ∂P _ ∂Q ] = - x y 1 = _ 1
P ∂y ∂x y(x + y + 1) y
เป็นฟังก์ชันของ y อย่างเดียว และได้ตัวประกอบอินทิเกรตของสมการ (1) เป็น
F = e∫1/y dy =
y
หาคำตอบของสมการ (1) โดยคูณตลอดสมการ (1) ด้วย y ได้
( xy2 + y3
+ y2 )dx + ( x2y + 3xy2 +
2xy )dy = 0
หรือ( xy2 dx + x2y dy )+( y3
dx + 3xy2 dy )+( y2 dx + 2xy dy ) = 0
หรือ d ( x2y2 + xy3 + xy2
) = 0
2
ดังนั้น ( x2y2 + xy3 + xy2
) = C
ANSWER
2